ของขวัญจากคืนนั้น - นิยาย ของขวัญจากคืนนั้น : Dek-D.com - Writer
×

    ของขวัญจากคืนนั้น

    แค่เพราะเมาในคืนนึงถึงขั้นมีของฝากจากเขาคนที่เธอไม่รู้จักแม้แต่ชื่อ แค่ครั้งเดียวเธอได้ของขวัญจากเขามาตั้งสาม แค่พลาดในครั้งเดียวที่ไม่ได้พลาดในการป้องกัน ครั้งเดียวนั้นทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปตลอด

    ผู้เข้าชมรวม

    1,303

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    7

    ผู้เข้าชมรวม


    1.3K

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    10
    จำนวนตอน :  3 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  31 พ.ค. 66 / 13:53 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    เมื่อก่อนวรนิษฐามักคิดว่าสถานการณ์แบบนี้มีแค่ในนิยาย ไอ้ที่ที่ว่าเมาแล้วตื่นมาพบว่าตัวเองเสียตัวให้ใครก็ไม่รู้ถ้าไม่บังเอิญว่าเจอกับตัวฉันก็ยังคงเชื่อแบบนั้นต่อไป......แต่.......

    “นี้มันเรื่องบ้าอะไรวะ!!!!!”   

     เสียงนี้ไม่ใช่เสียงของคนสติแตกที่ไหนมันคือเสียงของร่างบอบบางสมส่วนที่อยู่บนเตียงสีขาวสะอาด จะไม่ให้สติแตกได้ไงในเมื่อเธอตื่นมาพอว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงที่ไหนสักแห่งของโรงแรมในประเทศอเมริกา ก่อนจะบ้าไปมากกว่านี้หญิงสาวต้องตั้งสติแล้วคิดก่อนว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น เธอจำได้ว่าเมื่อคืนตัวเองอยู่ในงานเลี้ยงของบริษัทที่เธอหุ้นกันกับเพื่อนตั้งแต่เริ่มทำธุระกิจ เนื่องจากไตรมาสนี้ทางบริษัททำยอดทะลุเป้าหญิงสาวจึงเดินทางมาที่นี้เพื่อร่วมฉลอง หลังจากดื่มไปสักพักหญิงสาวเหมือนจะเผลอไปดื่มเหล้า บลู มาการิต้า ที่เป็นเหล้าที่เธอนั้นไม่ถูกโรคอย่างแรงกินเมื่อไหร่ถึงขั้นภาพตัดภายใน 5 นาทีเลยทีเดียว ที่ต้อง 5 นาทีเพราะเป็นคนความรู้สึกช้า นั้นแหละคำว่าภาพตัดมันก็บ่งบอกแล้วว่าไม่รู้เรื่องอะไรเลย พอระลึกได้ดังนั้นจึงทำการมองหากระเป๋าของตัวเองทันทีเมื่อพบว่ามันถูกวางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงเธอไม่รอช้าที่จะรีบถลาไปหยิบและผลที่ได้คืออาการเจ็บปวดระบมทั้งตัว จะไม่ให้เจ็บได้ยังไงในเมื่อเธอพึ่งจะเสียความบริสุทธิ์ที่ไม่เคยผ่านมือชายมาเมื่อคืน วรนิษฐาได้แต่บอกให้ตัวเองใจเย็นและตั้งสติก่อนจะค่อยคลานไปหยิบกระเป๋าที่อยู่อีกฝั่งของเตียงจนสำเร็จ และโทรหาเลขาคู่ใจทันที

    (สวัสดีค่ะบอส)

    “คุณบัว เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น?”

    (ฮือ...เมื่อคืนบอสเมาดิฉันเลยไปส่งบอสเข้าห้องพักไงคะ...ไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไรรึเปล่าคะบอส?)เลขาวัยทำงานถามอย่างแปลกใจที่เจอคำถามนี้จากเจ้านาย

    “ตอนที่คุณมาส่งฉันใครเป็นคนออกจากห้องเป็นคนสุดท้าย?”

    (เป็นพนักงานของทางโรงแรมค่ะ แต่ดิฉันก็ยืนรอออกมาพร้อมกับพนักงานนะคะ ไม่ทราบเกิดอะไรขึ้นคะบอส?)

    “เปล่าไม่มีอะไร...วันนี้ฉันไม่เข้าบริษัทนะ”

    (ได้ค่ะบอส)

    หลังจากวางสายจากเลขาคู่ใจ หญิงสาวก็ไม่ต้องการที่จะมานั่งปวดหัวกับเรื่องนี้อีกจึงได้แต่สลัดเรื่องบ้าๆนี้ออกจากหัวเธอคือสาวสวย รวย เก่ง แกร่ง กล้าได้กล้าเสีย เรื่องที่พลาดไปแล้วต่อให้เรามานั่งทุกข์ใจให้ตายยังไงเราก็กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อยู่ดีพอคิดได้ดังนั้นหญิงสาวจึงทิ้งตัวลงนอนหลับตาลงอย่างคนปล่อยวางทุกสิ่ง  เธอก็เป็นแบบนี้ปล่อยวางกับทุกสิ่งที่มันไม่มีประโยชน์ต่อตัวเอง พักสักพักก่อนที่จะแต่งตัวและออกจากโรงแรมเพื่อนเดินทางกลับประเทศไทยเนื่องจากมีเรื่องด่วนต้องรีบจัดการ มันจะไม่เป็นเรื่องใหญ่เลยถ้าเธอไม่ปล่อยวางถึงขนาดลืมกินยาคุมฉุกเฉิน!!!!!เมื่อก่อนวรนิษฐามักคิดว่าสถานการณ์แบบนี้มีแค่ในนิยาย ไอ้ที่ที่ว่าเมาแล้วตื่นมาพบว่าตัวเองเสียตัวให้ใครก็ไม่รู้ถ้าไม่บังเอิญว่าเจอกับตัวฉันก็ยังคงเชื่อแบบนั้นต่อไป......แต่.......

    “นี้มันเรื่องบ้าอะไรวะ!!!!!”   

     เสียงนี้ไม่ใช่เสียงของคนสติแตกที่ไหนมันคือเสียงของร่างบอบบางสมส่วนที่อยู่บนเตียงสีขาวสะอาด จะไม่ให้สติแตกได้ไงในเมื่อเธอตื่นมาพอว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงที่ไหนสักแห่งของโรงแรมในประเทศอเมริกา ก่อนจะบ้าไปมากกว่านี้หญิงสาวต้องตั้งสติแล้วคิดก่อนว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น เธอจำได้ว่าเมื่อคืนตัวเองอยู่ในงานเลี้ยงของบริษัทที่เธอหุ้นกันกับเพื่อนตั้งแต่เริ่มทำธุระกิจ เนื่องจากไตรมาสนี้ทางบริษัททำยอดทะลุเป้าหญิงสาวจึงเดินทางมาที่นี้เพื่อร่วมฉลอง หลังจากดื่มไปสักพักหญิงสาวเหมือนจะเผลอไปดื่มเหล้า บลู มาการิต้า ที่เป็นเหล้าที่เธอนั้นไม่ถูกโรคอย่างแรงกินเมื่อไหร่ถึงขั้นภาพตัดภายใน 5 นาทีเลยทีเดียว ที่ต้อง 5 นาทีเพราะเป็นคนความรู้สึกช้า นั้นแหละคำว่าภาพตัดมันก็บ่งบอกแล้วว่าไม่รู้เรื่องอะไรเลย พอระลึกได้ดังนั้นจึงทำการมองหากระเป๋าของตัวเองทันทีเมื่อพบว่ามันถูกวางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงเธอไม่รอช้าที่จะรีบถลาไปหยิบและผลที่ได้คืออาการเจ็บปวดระบมทั้งตัว จะไม่ให้เจ็บได้ยังไงในเมื่อเธอพึ่งจะเสียความบริสุทธิ์ที่ไม่เคยผ่านมือชายมาเมื่อคืน วรนิษฐาได้แต่บอกให้ตัวเองใจเย็นและตั้งสติก่อนจะค่อยคลานไปหยิบกระเป๋าที่อยู่อีกฝั่งของเตียงจนสำเร็จ และโทรหาเลขาคู่ใจทันที

    (สวัสดีค่ะบอส)

    “คุณบัว เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น?”

    (ฮือ...เมื่อคืนบอสเมาดิฉันเลยไปส่งบอสเข้าห้องพักไงคะ...ไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไรรึเปล่าคะบอส?)เลขาวัยทำงานถามอย่างแปลกใจที่เจอคำถามนี้จากเจ้านาย

    “ตอนที่คุณมาส่งฉันใครเป็นคนออกจากห้องเป็นคนสุดท้าย?”

    (เป็นพนักงานของทางโรงแรมค่ะ แต่ดิฉันก็ยืนรอออกมาพร้อมกับพนักงานนะคะ ไม่ทราบเกิดอะไรขึ้นคะบอส?)

    “เปล่าไม่มีอะไร...วันนี้ฉันไม่เข้าบริษัทนะ”

    (ได้ค่ะบอส)

    หลังจากวางสายจากเลขาคู่ใจ หญิงสาวก็ไม่ต้องการที่จะมานั่งปวดหัวกับเรื่องนี้อีกจึงได้แต่สลัดเรื่องบ้าๆนี้ออกจากหัวเธอคือสาวสวย รวย เก่ง แกร่ง กล้าได้กล้าเสีย เรื่องที่พลาดไปแล้วต่อให้เรามานั่งทุกข์ใจให้ตายยังไงเราก็กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อยู่ดีพอคิดได้ดังนั้นหญิงสาวจึงทิ้งตัวลงนอนหลับตาลงอย่างคนปล่อยวางทุกสิ่ง  เธอก็เป็นแบบนี้ปล่อยวางกับทุกสิ่งที่มันไม่มีประโยชน์ต่อตัวเอง พักสักพักก่อนที่จะแต่งตัวและออกจากโรงแรมเพื่อนเดินทางกลับประเทศไทยเนื่องจากมีเรื่องด่วนต้องรีบจัดการ มันจะไม่เป็นเรื่องใหญ่เลยถ้าเธอไม่ปล่อยวางถึงขนาดลืมกินยาคุมฉุกเฉิน!!!!!เมื่อก่อนวรนิษฐามักคิดว่าสถานการณ์แบบนี้มีแค่ในนิยาย ไอ้ที่ที่ว่าเมาแล้วตื่นมาพบว่าตัวเองเสียตัวให้ใครก็ไม่รู้ถ้าไม่บังเอิญว่าเจอกับตัวฉันก็ยังคงเชื่อแบบนั้นต่อไป......แต่.......

    “นี้มันเรื่องบ้าอะไรวะ!!!!!”   

     เสียงนี้ไม่ใช่เสียงของคนสติแตกที่ไหนมันคือเสียงของร่างบอบบางสมส่วนที่อยู่บนเตียงสีขาวสะอาด จะไม่ให้สติแตกได้ไงในเมื่อเธอตื่นมาพอว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงที่ไหนสักแห่งของโรงแรมในประเทศอเมริกา ก่อนจะบ้าไปมากกว่านี้หญิงสาวต้องตั้งสติแล้วคิดก่อนว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น เธอจำได้ว่าเมื่อคืนตัวเองอยู่ในงานเลี้ยงของบริษัทที่เธอหุ้นกันกับเพื่อนตั้งแต่เริ่มทำธุระกิจ เนื่องจากไตรมาสนี้ทางบริษัททำยอดทะลุเป้าหญิงสาวจึงเดินทางมาที่นี้เพื่อร่วมฉลอง หลังจากดื่มไปสักพักหญิงสาวเหมือนจะเผลอไปดื่มเหล้า บลู มาการิต้า ที่เป็นเหล้าที่เธอนั้นไม่ถูกโรคอย่างแรงกินเมื่อไหร่ถึงขั้นภาพตัดภายใน 5 นาทีเลยทีเดียว ที่ต้อง 5 นาทีเพราะเป็นคนความรู้สึกช้า นั้นแหละคำว่าภาพตัดมันก็บ่งบอกแล้วว่าไม่รู้เรื่องอะไรเลย พอระลึกได้ดังนั้นจึงทำการมองหากระเป๋าของตัวเองทันทีเมื่อพบว่ามันถูกวางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงเธอไม่รอช้าที่จะรีบถลาไปหยิบและผลที่ได้คืออาการเจ็บปวดระบมทั้งตัว จะไม่ให้เจ็บได้ยังไงในเมื่อเธอพึ่งจะเสียความบริสุทธิ์ที่ไม่เคยผ่านมือชายมาเมื่อคืน วรนิษฐาได้แต่บอกให้ตัวเองใจเย็นและตั้งสติก่อนจะค่อยคลานไปหยิบกระเป๋าที่อยู่อีกฝั่งของเตียงจนสำเร็จ และโทรหาเลขาคู่ใจทันที

    (สวัสดีค่ะบอส)

    “คุณบัว เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น?”

    (ฮือ...เมื่อคืนบอสเมาดิฉันเลยไปส่งบอสเข้าห้องพักไงคะ...ไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไรรึเปล่าคะบอส?)เลขาวัยทำงานถามอย่างแปลกใจที่เจอคำถามนี้จากเจ้านาย

    “ตอนที่คุณมาส่งฉันใครเป็นคนออกจากห้องเป็นคนสุดท้าย?”

    (เป็นพนักงานของทางโรงแรมค่ะ แต่ดิฉันก็ยืนรอออกมาพร้อมกับพนักงานนะคะ ไม่ทราบเกิดอะไรขึ้นคะบอส?)

    “เปล่าไม่มีอะไร...วันนี้ฉันไม่เข้าบริษัทนะ”

    (ได้ค่ะบอส)

    หลังจากวางสายจากเลขาคู่ใจ หญิงสาวก็ไม่ต้องการที่จะมานั่งปวดหัวกับเรื่องนี้อีกจึงได้แต่สลัดเรื่องบ้าๆนี้ออกจากหัวเธอคือสาวสวย รวย เก่ง แกร่ง กล้าได้กล้าเสีย เรื่องที่พลาดไปแล้วต่อให้เรามานั่งทุกข์ใจให้ตายยังไงเราก็กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อยู่ดีพอคิดได้ดังนั้นหญิงสาวจึงทิ้งตัวลงนอนหลับตาลงอย่างคนปล่อยวางทุกสิ่ง  เธอก็เป็นแบบนี้ปล่อยวางกับทุกสิ่งที่มันไม่มีประโยชน์ต่อตัวเอง พักสักพักก่อนที่จะแต่งตัวและออกจากโรงแรมเพื่อนเดินทางกลับประเทศไทยเนื่องจากมีเรื่องด่วนต้องรีบจัดการ มันจะไม่เป็นเรื่องใหญ่เลยถ้าเธอไม่ปล่อยวางถึงขนาดลืมกินยาคุมฉุกเฉิน!!!!!เมื่อก่อนวรนิษฐามักคิดว่าสถานการณ์แบบนี้มีแค่ในนิยาย ไอ้ที่ที่ว่าเมาแล้วตื่นมาพบว่าตัวเองเสียตัวให้ใครก็ไม่รู้ถ้าไม่บังเอิญว่าเจอกับตัวฉันก็ยังคงเชื่อแบบนั้นต่อไป......แต่.......

    “นี้มันเรื่องบ้าอะไรวะ!!!!!”   

     เสียงนี้ไม่ใช่เสียงของคนสติแตกที่ไหนมันคือเสียงของร่างบอบบางสมส่วนที่อยู่บนเตียงสีขาวสะอาด จะไม่ให้สติแตกได้ไงในเมื่อเธอตื่นมาพอว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงที่ไหนสักแห่งของโรงแรมในประเทศอเมริกา ก่อนจะบ้าไปมากกว่านี้หญิงสาวต้องตั้งสติแล้วคิดก่อนว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น เธอจำได้ว่าเมื่อคืนตัวเองอยู่ในงานเลี้ยงของบริษัทที่เธอหุ้นกันกับเพื่อนตั้งแต่เริ่มทำธุระกิจ เนื่องจากไตรมาสนี้ทางบริษัททำยอดทะลุเป้าหญิงสาวจึงเดินทางมาที่นี้เพื่อร่วมฉลอง หลังจากดื่มไปสักพักหญิงสาวเหมือนจะเผลอไปดื่มเหล้า บลู มาการิต้า ที่เป็นเหล้าที่เธอนั้นไม่ถูกโรคอย่างแรงกินเมื่อไหร่ถึงขั้นภาพตัดภายใน 5 นาทีเลยทีเดียว ที่ต้อง 5 นาทีเพราะเป็นคนความรู้สึกช้า นั้นแหละคำว่าภาพตัดมันก็บ่งบอกแล้วว่าไม่รู้เรื่องอะไรเลย พอระลึกได้ดังนั้นจึงทำการมองหากระเป๋าของตัวเองทันทีเมื่อพบว่ามันถูกวางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงเธอไม่รอช้าที่จะรีบถลาไปหยิบและผลที่ได้คืออาการเจ็บปวดระบมทั้งตัว จะไม่ให้เจ็บได้ยังไงในเมื่อเธอพึ่งจะเสียความบริสุทธิ์ที่ไม่เคยผ่านมือชายมาเมื่อคืน วรนิษฐาได้แต่บอกให้ตัวเองใจเย็นและตั้งสติก่อนจะค่อยคลานไปหยิบกระเป๋าที่อยู่อีกฝั่งของเตียงจนสำเร็จ และโทรหาเลขาคู่ใจทันที

    (สวัสดีค่ะบอส)

    “คุณบัว เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น?”

    (ฮือ...เมื่อคืนบอสเมาดิฉันเลยไปส่งบอสเข้าห้องพักไงคะ...ไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไรรึเปล่าคะบอส?)เลขาวัยทำงานถามอย่างแปลกใจที่เจอคำถามนี้จากเจ้านาย

    “ตอนที่คุณมาส่งฉันใครเป็นคนออกจากห้องเป็นคนสุดท้าย?”

    (เป็นพนักงานของทางโรงแรมค่ะ แต่ดิฉันก็ยืนรอออกมาพร้อมกับพนักงานนะคะ ไม่ทราบเกิดอะไรขึ้นคะบอส?)

    “เปล่าไม่มีอะไร...วันนี้ฉันไม่เข้าบริษัทนะ”

    (ได้ค่ะบอส)

    หลังจากวางสายจากเลขาคู่ใจ หญิงสาวก็ไม่ต้องการที่จะมานั่งปวดหัวกับเรื่องนี้อีกจึงได้แต่สลัดเรื่องบ้าๆนี้ออกจากหัวเธอคือสาวสวย รวย เก่ง แกร่ง กล้าได้กล้าเสีย เรื่องที่พลาดไปแล้วต่อให้เรามานั่งทุกข์ใจให้ตายยังไงเราก็กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อยู่ดีพอคิดได้ดังนั้นหญิงสาวจึงทิ้งตัวลงนอนหลับตาลงอย่างคนปล่อยวางทุกสิ่ง  เธอก็เป็นแบบนี้ปล่อยวางกับทุกสิ่งที่มันไม่มีประโยชน์ต่อตัวเอง พักสักพักก่อนที่จะแต่งตัวและออกจากโรงแรมเพื่อนเดินทางกลับประเทศไทยเนื่องจากมีเรื่องด่วนต้องรีบจัดการ มันจะไม่เป็นเรื่องใหญ่เลยถ้าเธอไม่ปล่อยวางถึงขนาดลืมกินยาคุมฉุกเฉิน!!!!!

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น